งานแฟรช *

งาน แฟรช น๊ะจ๊ะ *

จัดงานศพให้ตุ๊กตาโดเรม่อน *

เมื่อวันที่ 1 ก.พ. ผู้สื่อข่าวรับแจ้งจากชาวบ้านว่า ที่วัดมหาโลก ต.หัวรอ อ.พระนครศรีอยุธยา มีการจัดงานศพให้กับตุ๊กตา จึงเดินทางไปตรวจสอบ เมื่อไปถึงพบว่าภายในวัดมีการแสดงลิเกมีร้านค้ามาตั้งขายของ บริเวณศาลาการเปรียญมีการจัดงานศพเหมือนกับงานศพคนปรกติ มีหีบศพไม้สักลวดลายงดงามขนาดเล็กยาวประมาณ 1 เมตร ตั้งอยู่บนแท่น มีภาพเด็กผู้หญิงตั้งหน้าศพ ระบุชื่อ น้องจิเว่ย นาคทอง ชาตะ 17 ก.พ.2549 มรณะ 18 ต.ค.2252 คู่กับหีบศพผู้ใหญ่ โดยมีประชาชนมาร่วมในงานศพกว่า 100 คน ใกล้กับมีนางพลับพลึง งามเจริญ อายุ 48 ปี ชาว ต.หัวรอ อ.พระนครศรีอยุธยา นั่งฟังพระสวดพระอภิธรรมอยู่กับครอบครัวหลังสวดพระอภิธรรมศพจบ ทางเจ้าภาพมีการแจกเงินและขนมให้กับเด็กๆ กว่า 100 คน นางพลับพลึง เปิดเผยว่า ตนเองมีอาชีพเป็นแม่บ้านอยู่ที่โรงพยาบาลราชธานี ที่มาจัดงานศพให้กับตุ๊กตาโดเรมอนตัวใหญ่ โดยที่มาของเรื่องนี้เกิดขึ้นเนื่องจากมีปัญหาสุขภาพ ป่วยเป็นโรคมะเร็งในเม็ดเลือด ท้อแท้ต่อชีวิตเพระปัญหาเรื่องงานและปัญหาครอบครัวทับถมเข้ามา จึงหันไปพึ่งทางธรรม จนไปพบพระครูนิเวศธรรมคุณ เจ้าอาวาสวัดสามัคคีธรรม ต.พุแค อ.เฉลิมพระเกียรติ์ จ.สระบุรี เมื่อวันที่ 17 ก.พ. 49 โดยพระครูนิเวศธรรมคุณ ให้ยาสมุนไพรลักษณะผงมาให้กินและพูดให้กำลังใจ จากนั้นมอบตุ๊กตาโดเรมอนให้มาเลี้ยงเหมือนลูก บอกว่าจะให้คุณและทำให้จิตใจสบาย จากนั้นมา นางพลับพลึงก็จะนำตุ๊กตาไปด้วยกันเสมอ จนกระทั่งเมื่อคืนวันที่ 18 ต.ค.52 เวลาประมาณ 01.20 น. ฝันว่าน้องจิเว่ยมาโบกมือลาบอกว่าขอลาไปก่อนขอให้แม่ช่วยทำบุญจัดงานศพคนทั่วไปให้ด้วย จึงนำร่างจิเหว่ยไปให้กับพระครูนิเวศธรรมคุณ สวดพระอภิธรรมศพที่วัดสามัคคีธรรม จนกระทั่งนำกลับมาวันที่ 3 ม.ค.52 เนื่องจากคิดถึง และพอได้เวลาจึงจัดงานศพให้ดังกล่าว โดยจัดให้มีการสวดพระอภิธรรมทุกคืน ใช้เงินเกือบ 2 แสนบาท และจะฌาปนกิจในวันที่ 2 ก.พ. เวลา 16.00 น.

ขอบคุณ บรีสซี่ *

คริสติน่า ในกองถ่าย Burlesque ใน LA *

ขอบคุณ Litty

Michelle Trachtenbergจอร์จีน่าแห่งGossipGirlในComplex+ข่าวGG *

อ้างอิงจาก:Actress Michelle Trachtenberg is celebrating the launch of her handbag collaboration with Botkier with a sexy spread and intimate chat with the Feb/March issue of Complex – on newsstands Feb. 8. The actress –who also appeared on the NBC medical drama Mercy — created a special bag for Shopbop.com, whose proceeds benefit Oxfam International. Michelle’s looking pretty good in that mask — but she always has had a thing for accessories. Just last fall, Trachtenberg was tapped to design jewelry for Coach’s Poppy Collection. Keep your eyes peeled for the actress’ return to Gossip Girl, where she is reprising her role as backstabbing baddie Georgina Sparks.

================================================================ นางคอนเฟริ์มว่าระหว่างที่พักซีซั่นนี้จะมีงานหนังใหญ่ 2 เรื่องและรับเชิญในซีรี่ย์ดังหนึ่งเรื่อง และจะกลับไปปิดซีซั่นฟินาเล่และกลับไปเล่นขับเคี่ยวใน Gossipgirl ไปจนถึงจนจบซีซั่น 4 ที่นางจะมีบทเด่นพอๆกับ อีเอส เจนนี่ย์ และ แบลร์เรยนะคะ และนางบอกว่านางจะร้ายแบบเทหมดหน้าตัก ห้ามกระพริบตาเชียววว แอร๊ยยยยยยยยยยยย ตื่นเต้นอยากดู

Thanks มาดามจ๊อกกาโล่ *

เฮย์เดน ย้อมผม ใหม่ บอกว่าไม่อยากเป็ฯผู้หญิงผมบอลโง่ๆ*

Hayden Panettiere is tired of being called cute, apparently. The Heroes star recently switched up her hair color, changing from her signature sunny blonde to a dark red shade. At a recent red carpet event, Panettiere explained, "I was tired of being blonde and being...you get stuck in one thing and known for one thing and as a cheerleader or whatever, that image. It's fun to change things up, and I feel I don't have to overcompensate as much personality-wise when I have red hair as I do with blonde hair." "I'm typically a very fiery person anyway, but I just feel like cute and blonde and little is just so one category and one thing. Changing my hair color, I feel like I don't have to overcompensate so much for the fact that I don't like being called cute or anything like that -I'm Feel A little Dumb sometimes especially being all 5'2" of me." What do you think of Hayden's new hair color?

================================================================= นางให้สัมภาษณ์ถึงสีผมใหม่ด้วยว่า นางเบื่อแร๊วที่โดนชมว่าสวยว่าน่ารัก เบื่อมาก จนเพลีย เรยประชดย้อมผมสีเข้มๆซะที นางบอกด้วยนะคะว่า "I don't like being called cute or anything like that -I'm Feel A little Dumb sometimes especially being all 5'2" of me." (ชั้นเบื่อมากกกกกกกกกกก ที่โดนชมมาตลอดว่าสวยมั่งล่ะ น่ารักมั่งล่ะ ชั้นรุ้สึกตัวเองดูโง่ๆนะยิ่งกับสัดส่วนและส่วนสูง 5 ฟุต 2 นิ้วด้วยแล้วอีกเนี่ยย ชิส์) ค่ะ แล้วหร่อนก้ไม่สวยสมใจนะคะ ผมสีนี้ย์ทำให้หร่อนดูหน้าแก่มากกกกกกกกกกกกกค่ะ นังเฮย์เดน


Thanks มาดามจ๊อกกาโล่

ภาพเซตแรกจาก อัลบั้มรวมฮิตของมารายห์

ขอบคุณ I stay in love *

ภาพเซทแรก ของเอมวี เทเลโฟน *

ขอบคุณ ไนน์สเปียร์

พิกซี่ บอกว่าชอบ แซค เอฟรอน *

Pixie Lott สัมภาษณ์ผ่านหนังสือพิมพ์ Mirror โดยมีคำถามประมาณว่าในบรรดานักร้องนักแสดงวัยรุ่นชาวเนี่ยคุณชอบใคร โดยหนูพิกซ์ตอบมาว่า


อ้างอิงจาก:

"I also love Zac Efron but apparently he's quite short, which sucks because I'm 5ft 8ins"



เรื่องของเรื่องคือในงานพรีเมียร์ 17 Again หนูพิกซ์ได้เจอแซคตัวเป็นๆแล้วพบว่าสูงเท่ากัน (173 cms.) แหม่ หนูพิกซ์พูดทำร้ายจิตใจแซตมากมายครับผม!!!


ขอบคุณ คุณ พาราไดเซอร์ *

กำจัดนกพิราบภายใน 15 วัน

กทม.ทยอยนำรถออกจากสนามหลวง ขณะที่แม่ค้าขายอาหารนกพิราบป่วนเจ้าหน้าที่เทศกิจ จุดประทัดไล่นก หลังเตรียมขนนกพิราบย้ายสถานที่เพื่อปรับภูมิทัศน์สนามหลวง ขณะที่ กทม.เริ่มจับนกพิราบเพื่อปรับภูมิทัศน์ท้องสนามหลวงแล้ว โดยรองผู้ว่าฯ กทม.คาดว่าประมาณ 2 สัปดาห์น่าจะจับได้หมด

วันนี้(1 ก.พ.) นายธีระชน มนโนมัยพิบูลย์ นายพรเทพ เตชะไพบูลย์ และนางทยา ทีปสุวรรณ รองผู้ว่าราชการกรุงเทพมหานคร(กทม.) ลงพื้นที่ตรวจการปฏิบัติงานภายหลังได้ปิดสนามหลวงตั้งแต่เมื่อคืนที่ผ่านมา - 30 พ.ย. 2553 เพื่อปรับปรุงภูมิทัศน์สนามหลวงและบริเวณโดยรอบโดยตั้งแต่ช่วงเช้าที่ผ่านมาเจ้าหน้าที่รักษาความสะอาดได้เข้าทำความสะอาดพื้นที่ ขณะที่เจ้าหน้าที่บางส่วนได้นำเมล็ดข้าวโพดแห้งมาโปรยบริเวณกรงจับนกพิราบซึ่งตั้งอยู่ที่ท้องสนามหลวงฝั่งทิศใต้ทั้งนี้เพื่อให้เกิดความคุ้นเคยและสามารถจับเข้ากรงได้โดยง่าย ตลอดจนห้ามให้รถทัวร์รับส่งนักท่องเที่ยวและรถยนต์เข้ามาจอดภายในสนามหลวงโดยเด็ดขาด

โดยนายธีระชน กล่าวว่า กทม.จะเริ่มปฏิบัติการปรับปรุงภูมิทัศน์พื้นที่สนามหลวงโดยเริ่มจากการดักจับนกพิราบในพื้นที่ที่มีกว่า 10,000 ตัว ไปเลี้ยงดูในพื้นที่ปิดเหมาะสม เช่น ที่จ.ราชบุรี จ.ปราจีนบุรี เบื้องต้นนั้น ทางเครือข่ายนกพิราบที่เกี่ยวข้อง อาทิ สมาคมมิตรภาพกีฬาแข่งนก สมาคมพัฒนานกพิราบสื่อสารไทย จะใช้เวลาประมาณ 2 สัปดาห์ในการดักจับนกพิราบ และจะนำนกพิราบที่จับได้ ทำการฆ่าไร ตรวจหาเชื้อไข้หวัดนก และให้ยาถ่ายพยาธิ ก่อนที่จะนำไปเลี้ยงในพื้นที่ปิดดังกล่าว ตนจึงขอความร่วมมือประชาชนงดซื้อและให้อาหารนกพิราบด้วย

ด้านนายพรเทพ กล่าวถึงการจัดระเบียบผู้ค้าว่า สำหรับผู้ค้าขณะนี้กทม.ได้เตรียมพื้นที่คลองหลอดเป็นพื้นที่ค้าขาย เบื้องต้นได้ขอให้สำนักงานเขตพระนคร เป็นตัวกลางประสานไปยังผู้ค้าที่ต้องการ ซึ่งหากพื้นที่คลองหลอดมีไม่เพียงพอ หรือต้องเสียค่าเช่า กทม.จะเป็นผู้ที่ดูแลให้แต่ขอให้มาเจรจากันก่อนว่ามีปัญหาคับข้องใจอะไรบ้าง

ขณะที่นางทยา กล่าวถึงการแก้ปัญหาคนเร่ร่อนว่า ตนอยู่ระหว่างเร่งประสานกับหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง อาทิ กระทรวงพัฒนาสังคมและความมั่นคงของมนุษย์ (พม.) ในการหาบ้านพักอาศัยชั่วคราวให้ เบื้องต้นอาจจะต้องมีการผ่อนปรนกฎระเบียบให้ความเป็นอยู่อิสระขึ้น สำหรับคนเร่ร่อนที่ต้องการที่พักนั้น กทม.จะใช้เวลา 28 วันในการให้กลุ่มคนดังกล่าวได้รับที่อยู่อาศัยชั่วคราว ส่วนคนเร่ร่อนที่ต้องการหาอาชีพใหม่ทำนั้น ตนจะให้โรงเรียนฝึกอาชีพของกทม. เข้ามาแจกแผ่นประชาสัมพันธ์และเชิญชวนผู้ค้าที่ต้องการเข้าไปเรียน เพื่อสร้างแหล่งหารายได้และอาชีพในอนาคตต่อไป

ด้านนายเนติ ตันติมนตรี นายกสมาคมมิตรภาพกีฬาแข่งนก เปิดเผยว่า ทางเจ้าหน้าที่จะใช้เวลา 10 วันในการทำความคุ้นเคยกับนกด้วยการให้อาหารเป็นประจำทุกวัน ตั้งแต่เวลา 12.00-15.00 น. ซึ่งอาหารที่ให้ ได้แก่ เมล็ดทานตะวันรัสเซีย, เมล็ดคานาวิสซานติว่า ซึ่งนำเข้าจากต่างประเทศและเมล็ดข้าวโพด โดยจะให้อาหารดังกล่าวช่วงเวลา 12.00-15.00 น. ทุกวัน ก่อนที่จะจับไปตรวจหาโรคที่ซ.ลาดพร้าว 87 และส่งต่อไปยังพื้นที่เลี้ยงในจ.ปราจีน และ จ.ราชบุรีต่อไป ส่วนการขัดขวางการจับนำของผู้ค้าอาหารนก ที่นำประทัด หรือ ส่งเสียงดังนั้น ตนมองว่าจะเป็นอุปสรรคในการทำโครงการดังกล่าวอย่างมาก เบื้องต้นอยากขอความร่วมมือเจ้าหน้าที่กทม. ช่วยดูแลไม่ให้ผู้ต่อต้านทำการขัดขวาง

ผู้สื่อข่าวรายงานด้วยว่า เมื่อวันที่ 31 ม.ค. เวลา 20.00 น. ที่ผ่านมา ตัวแทนของมูลนิธิอิสระชน จำนวน 3 คนได้เข้าหารือกับนายสมลักษณ์ บุญยอ แกนนำกลุ่มสนามหลวง เพื่อรับหนังสือขอความอนุเคราะห์และผ่อนผันให้ผู้ค้าแผงลอยและคนเร่ร่อนเข้าพักในพื้นที่เดิมได้อีกประมาณ 1 เดือน เบื้องต้นตัวแทนมูลอิสสระชนได้รับข้อเสนอ และขอร้องให้กลุ่มสนามหลวงหยุดเคลื่อนไหวในวันที่ 1ก.พ. เพื่อให้การแถลงข่าวเปิดตัวโครงการปรับปรุงภูมิทัศน์สนามหลวงเป็นไปด้วยความเรียบร้อย ซึ่งกรณีดังกล่าวนายพรเทพ กล่าวว่า ความจริงแล้วกทม.ไม่ได้ให้สิทธิ์ใครในการพักในพื้นที่สนามหลวง แต่เพื่อไม่ให้เกิดความวุ่นวายคงต้องใช้วิธีเจรจากัน ซึ่งในวันที่ 1 มี.ค.นี้ กทม.จะส่งมอบพื้นที่สนามหลวงให้กับหน่วยงานทหารให้เข้ามาพัฒนา คงต้องให้หน่วยงานดังกล่าวพิจารณาอีกครั้งว่าจะยอมให้กลุ่มผู้ชุมนุมดังกล่าวอยู่ในพื้นที่ต่อไปหรือไม่


โดย ASTVผู้จัดการออนไลน์ 1 กุมภาพันธ์ 2553 12:02 น.

ป้าเจเนต บนปก WOnderland

Thanks โรบินห่าน*

ชาเนียล ทไวน์ เป็นกรรมการรายการอเมริกันไอดอล

Shania Rocks American Idol Auditions! On January 19, 2010 Shania Twain appeared as a guest judge on the show American Idol for the Chicago auditions. This episode was taped in August 2009. Based on all reviews and comments from the fans, Shania did fantastically! She was a supportive judge with good advice for the contestants. Click HERE to see great vidcaps from the episode by AzureLightning and Wing and read the many comments on Shania from enthusiastic fans and bloggers! Thanks to all who contributed with the posts and reviews

ตามหัวข้อข่าวเลยนะ

Thanks เจสซี่ *

10 ภาพยนต์ออสก้า *

งาน ประกาศรายชื่อผู้เข้าชิงรางวัล ออสการ์ 2010 จบไปเมื่อสักครู่ ดำเนินรายการโดย แอน ฮาทาเวย์

สำหรับสาขาใหญ่สุด ภาพยนตร์ยอดเยี่ยม ( 10 เรื่อง ) ตามกฏใหม่ ปี 2010

MOTION PICTURE

Avatar
The Blind Side
District 9
An Education
The Hurt Locker
Inglourious Basterds
Precious: Based on the Novel Push by Sapphire
A Serious Man
Up
Up in the Air

สาขาทางด้านเทคนิค และ โปรดักชั่น อื่น ๆ ยังไม่ออก กำลังอัพเดท กันอยู่

AVATAR เข้าชิงมากที่สุดในปี 2010

UP กลายเป็นภาพยนตร์อนิเมชั่นเรื่องที่ 2 ที่เข้าชิง BEST Picture ได้ นับตั้งแต่ Beauty and The Beast ในปี 1991 ต้องรอกันมาถึง 19 ปีเลยทีเดียว สำหรับ อนิเมชั่นเรื่องที่ 2 ที่ทำสำเร็จ

บันทึกลับเฉพาะพานทองแท้ !!

29 สิงหาคม 2546 พานทองแท้ ชินวัตร (โอ๊ค) ลูกชายของนายกรัฐมนตรีขณะนั้น จะได้ปรากฏเป็นข่าวในหน้าหนังสือพิมพ์ว่าได้นำโพยกระดาษแอบซุกเข้ามาในห้องสอบวิชาการวิเคราะห์ ระบบการเมืองไทย หรือ PS 421 ซึ่งเป็นวิชาสำหรับนักศึกษาชั้นปีที่ 3 คณะรัฐศาสตร์ สาขาการปกครอง มหาวิทยาลัยรามคำแหง (มร.)

นั่นดูเหมือนจะเป็นข่าวชิ้นแรกๆ ที่นักข่าวให้ความสนใจกับข่าวในเชิงลบของ พานทองแท้ ชินวัตร ลูกชายคนเดียวของ พ.ต.ท.ทักษิณ และคุณหญิงพจมาน

“ความลับ” ของพานทองแท้ที่ถูกเปิดเผย ในเรื่องโพยนำกระดาษเข้าห้องสอบนั้น ถือเป็นเรื่องเพียงเสี้ยวเดียวจากความลับอีกหลายเรื่อง ซึ่งสื่อมวลชนคงไม่อยากที่จะนำมาเปิดเผยก็เพราะมันเป็นเรื่องส่วนตัว และไม่ได้มีประโยชน์ใดๆ กับบ้านเมือง

ความเป็นลูกชายมหาเศรษฐี และเป็นลูกนายกรัฐมนตรีในขณะนั้น พานทองแท้ได้ถูกเอาอกเอาใจทั้งจากนักการเมือง พนักงานของรัฐ และพ่อค้าเอกชนในระบอบทักษิณ จนไม่ว่าจะเปิดกิจการธุรกิจ หรือทำกิจกรรมใดๆ ก็จะมีแขกผู้มีเกียรติเข้าร่วมงานกันอย่างคับคั่ง ล้นหลาม และยังมีธุรกิจที่ได้ประโยชน์จากเครือข่ายในทางการเมืองอีกมากมายมหาศาลด้วย

ความรุ่งเรืองและทรงอิทธิพลของครอบครัวชินวัตร ยังได้ส่งผลกระทบแม้กระทั่งสิทธิเสรีภาพในการแสดงผลงานของตลกที่อาจกระทบต่อพานทองแท้อีกด้วย

ปี 2547 เด๋อ ดอกสะเดา นักแสดงตลกได้เขียนบทและกำกับบทภาพยนตร์เรื่อง “ยอดชายนายโอ๊กอ๊าก” โดยมี นายสายันห์ ดอกสะเดา นักแสดงตลกพิการทางสมอง ซึ่งรับบทนำเป็น “โอ๊กอ๊าก” ลูกชายของ “เจ้าสัวรักสิน” ซึ่งชื่อและลักษณะตัวละครมีลักษณะล้อเลียนทางการเมืองได้สร้างความไม่พอใจกับพ.ต.ท.ทักษิณ ชินวัตร อย่างมากจนถูกตำรวจสันติบาลเข้ามาตรวจสอบภาพยนตร์ชุดนี้โดยอ้างว่า “อาจเป็นภัยต่อความมั่นคงต่อรัฐ”

วาทกรรมของ พ.ต.ท.ทักษิณ ต่อภาพยนตร์เรื่องดังกล่าวในขณะนั้น คือ “ต้องระวัง ถ้าทำให้ผู้นำประเทศเป็นตัวตลก ประเทศก็เป็นตัวตลกไปด้วย”

ปี 2553 ภายใต้คดีการยึดทรัพย์ 76,000 ล้านบาท ของครอบครัวชินวัตร อาจทำให้ต้องเปลี่ยนวาทกรรมใหม่ว่า “ต้องระวัง ถ้าผู้นำประเทศเห็นประชาชนโง่ ประเทศก็จะเป็นตัวตลกและเสียหายไปด้วย”

6 ปีเศษผ่านไปจากวันกำเนิดภาพยนตร์เรื่อง “ยอดชายนายโอ๊กอ๊าก” (ต่อมาเปลี่ยนชื่อเป็น โว๊กว๊าก) ใครจะเชื่อได้ว่า “ความลับ” จากพานทองแท้ ซึ่งได้เก็บงำเอาไว้เป็นเวลาหลายปีจะมาถูกเปิดเผยและกลายเป็นหลักฐานสำคัญในการจับผิดและมัดคดีความการยึดทรัพย์ 76,000 ล้านบาทอย่างชนิดที่ดิ้นไม่หลุด แต่ครั้งนี้ลำพังสติปัญญาที่วางแผน “พกกระดาษโพย” คงมือไม่ถึง แต่เพราะมีผู้ใหญ่คอยวางแผนบงการอยู่เบื้องหลังจึงมีความสลับซับซ้อนอย่างยิ่ง

เพราะในคดีที่คณะกรรมการตรวจสอบการกระทำที่ก่อให้เกิดความเสียหายแก่รัฐ จะพยายามพิสูจน์ใน 2 ประเด็น คือ

ประเด็นแรก พิสูจน์ให้เห็นว่า พ.ต.ท.ทักษิณและคุณหญิงพจมานยังคงบงการหรือถือหุ้นผ่านหุ่นเชิดในกิจการสัมปทานของรัฐอยู่ หรือที่เรียกว่า “ซุกหุ้น” เพื่อพิสูจน์ว่า พ.ต.ท.ทักษิณและคุณหญิงพจมานมีผลประโยชน์ทับซ้อน กับอำนาจรัฐในตำแหน่งนายกรัฐมนตรี

ประเด็นที่สอง พิสูจน์ให้เห็นว่ามีการใช้นโยบายของรัฐในการเอื้อประโยชน์ให้กับตัวเอง คู่สมรส และพวกพ้องหรือไม่ และการทำเช่นนั้นได้ทำให้ประเทศชาติเสียหายเท่าไร? ซึ่งประเด็นหลังอาจเรียกได้ว่าเป็นการ “พิสูจน์การทุจริตเชิงนโยบาย”

สำหรับประเด็นแรกนั้น “พานทองแท้” เป็นตัวอย่างหนึ่งในกุญแจสำคัญอย่างยิ่งที่ทำให้น่าเชื่อว่าได้มีการถือหุ้นที่มีสัมปทานกับรัฐแทนพ่อแม่ ก่อนที่ พ.ต.ท.ทักษิณ ชินวัตรจะมาเป็นนายกรัฐมนตรี

ปฏิบัติการผ่องถ่ายหุ้นสัมปทานและยัดหนี้ให้นายพานทองแท้ ลูกชายคนเดียวที่บรรลุนิติภาวะ จึงเกิดขึ้นอย่างรวดเร็วและใช้เวลาเพียงแค่ 2 วันติดกัน คือวันที่ 30 สิงหาคม 2543 “เป็นวันแม่ยัดหนี้ให้ลูก” และวันที่ 1 กันยายน 2543 เป็นวัน “โอนหุ้นให้ลูกเพื่อรอวันปันผลคืนหนี้แม่” ดังนี้

30 สิงหาคม 2543 คุณหญิงพจมาน ชินวัตร ขายหุ้นธนาคารทหารไทยจำนวน 150 ล้านหุ้น ซึ่งมีราคาตลาดหุ้นละ 5.70 บาท มูลค่าตลาดประมาณ 855 ล้านบาท ให้กับ พานทองแท้ 10 บาทต่อหุ้น หรือขายให้ลูกในราคาพาร์มูลค่า 1,500 ล้านบาท

นอกจากนี้ “ใบสำคัญแสดงสิทธิอนุพันธ์ที่จะซื้อหุ้นบุริมสิทธิ” ของธนาคารทหารไทย ซึ่งคุณหญิงพจมาน ชินวัตร ได้สิทธินี้ฟรีๆ จากอัตราส่วน หุ้นสามัญของธนาคารทหารไทย 1 ส่วน ได้ใบสำคัญแสดงสิทธิอนุพันธ์ฟรี 2 ส่วน ดังนั้นเมื่อคุณหญิงพจมาน ชินวัตร มีหุ้นทหารไทย 150 ล้านหุ้น คุณหญิงพจมานจึงได้ใบสำคัญแสดงสิทธิอนุพันธ์ฟรีๆ 300 หน่วย แต่กลับไปขายใบสำคัญแสดงสิทธิอนุพันธ์ที่ได้มาฟรีๆ นี้ให้กับ พานทองแท้ ราคาหน่วยละ 10 บาท จึงเท่ากับขายให้ลูกมูลค่า 3,000 ล้านบาท ทั้งๆ ที่ราคาตลาดในวันที่ 30 สิงหาคม 2543 ใบสำคัญแสดงสิทธิอนุพันธ์มีราคาเพียงหน่วยละ 1.30 บาทเท่านั้น

แต่ “พานทองแท้” ไม่มีเงินในการซื้อ จึงได้ออกตั๋วสัญญาใช้เงินเพื่อแสดงความเป็นหนี้คุณหญิงพจมาน 4,500 ล้านบาทในการซื้อทรัพย์สินครั้งนี้ ซึ่งทรัพย์สินที่ได้มานั้นหากเทียบกับราคาตลาดจะมีเพียงแค่ 1,245 ล้านบาท แต่เทียบกับต้นทุนที่คุณหญิงพจมานได้ทรัพย์สินนี้มามีมูลค่าเพียงแค่ 1,500 ล้านบาท

เท่ากับว่า “พานทองแท้” ต้องเป็นหนี้แม่ 4,500 ล้านบาท แต่เป็นหนี้เกินความเป็นจริงถึง 3,000 ล้านบาท!

1 กันยายน 2543 พานทองแท้ ซื้อหุ้น “ชินคอร์ป” โดยติดหนี้จากพ่อและแม่รวม 733 ล้านบาท ผลปรากฏว่า เงินทุกบาทที่ได้มาจากการปันผลของ “ชินคอร์ป” ทุกครั้งตั้งแต่วันที่ 14 มีนาคม 2544 ถึงวันที่ 26 มกราคม 2549 ให้กับ “แม่” ทั้งหมด 29 ครั้ง รวมเป็นเงิน 5,056 ล้านบาท โดยอ้างว่าเพื่อเป็นการคืนหนี้ที่ได้มา (เกินความจริง) จากการซื้อหุ้นธนาคารทหารไทยและใบสำคัญแสดงสิทธิของธนาคารทหารไทย

จาก “พานทองแท้” ที่เป็นผู้ถือหุ้นของแอมเพิลริชนั้น แท้ที่จริงแล้ว กลต. และกรมสอบสวนคดีพิเศษ ได้พบหลักฐานชัดเจนแล้วด้วยว่า วินมาร์คและแอมเพิลริช (ซึ่งถือหุ้นในเครือของหุ้นชินคอร์ปหลายตัว) เป็นของ พ.ต.ท.ทักษิณ และคุณหญิงพจมาน โดย พ.ต.ท.ทักษิณ ชินวัตร ในขณะเป็นนายกรัฐมนตรีจนถึงปี 2548 หนังสือรับรองของบริษัทแอมเพิลริชระบุว่า “การถอนเงินใดๆ จะต้องได้รับมอบอำนาจจากด็อกเตอร์ ที. ชินวัตร เท่านั้น”

นี่คือการพิสูจน์การ “ซุกหุ้น” ที่แยบยลระดับโลก!

หันมาพิจารณาเรื่องการทุจริตนเชิงนโยบาย ศ.ดร.สิทธิชัย โภไคยอุดม อดีตรัฐมนตรีว่าการกระทรวงเทคโนโลยีสารสนเทศและการสื่อสาร ในรัฐบาลพลเอกสุรยุทธ์ จุลานนท์ ได้อธิบายต่อคณะผู้พิพากษาศาลฎีกาแผนกคดีอาญาของผู้ดำรงตำแหน่งทางการเมืองว่า รวมความเสียหายที่เกิดขึ้นกับภาครัฐใน 3 รายการ ดังนี้

ความเสียหายจากการนำพิกัดอัตราภาษีสรรพสามิตที่จัดเก็บได้จากกิจการโทรคมนาคมของเอกชน ไปคืนให้กับเอกชนเพื่อนำไปหักลดค่าสัมปทานกิจการโทรคมนาคมที่ให้กับรัฐ รวมความเสียหายส่วนนี้ประมาณ 60,000 ล้านบาท

ความเสียหายจากการปรับลดอัตราส่วนแบ่งรายได้ให้บริษัท ทศท คอร์ปอเรชั่น จากการให้บริการโทรศัพท์เคลื่อนที่แบบบัตรเติมเงิน หรือ Prepaid Card ให้กับบริษัทเอไอเอส จากเดิมที่ต้องจ่ายแบบอัตราก้าวหน้าในอัตราร้อยละ 25-30 มาเป็นร้อยละ 20 รวมความเสียหายประมาณ 70,000 ล้านบาทตลอดอายุสัมปทาน

การยินยอมใช้ IP star ซึ่งเป็นดาวเทียมหลัก ให้มาเป็นดาวเทียมสำรองของไทยคม 3 โดยทำให้ไม่ต้องสัมปทานดาวเทียมใหม่และไม่ต้องยิงดาวเทียมสำรองอีกดวงหนึ่ง ทำให้เกิดความเสียหายและค่าเสียโอกาสไปอีกประมาณ 50,000 ล้านบาท

นอกจากนั้น คณะกรรมการตรวจสอบการกระทำที่ก่อให้เกิดความเสียหายแก่รัฐ (คตส.) ยังได้รายงานความเสียหายเพิ่มเติมนอกจากนี้อีก 2 รายการ คือ

ความเสียหายกรณีมีการแก้ไขสัญญาอนุญาตให้ดำเนินกิจการโทรศัพท์เคลื่อนที่ ปรับลดอัตราค่าใช้เครือข่ายร่วม (Roaming) เอื้อประโยชน์ชินคอร์ป และ AIS โดยแก้ไขให้ AIS เข้าไปใช้เครือข่ายร่วมผู้ให้บริการรายอื่นที่มีผลทำให้ AIS ไม่ต้องจ่ายเงินกว่า 19,000 ล้านบาท

ความเสียหายจากการอนุมัติให้ธนาคารเพื่อการส่งออกนำเข้าแห่งประเทศไทย หรือ เอ็กซิมแบงก์ ซึ่งปล่อยกู้ให้ดอกเบี้ยต่ำกว่าทุน 4,000 ล้านบาท และขยายเวลาปลอดชำระหนี้จาก 2 ปี เป็น 5 ปีเพื่อนำไปซื้ออุปกรณ์จากการพัฒนาระบบโทรคมนาคมของพม่าจาก บริษัท ชินแซทเทลไลท์ จำกัด

รวมความเสียหายทั้ง 5 รายการ ประมาณ 200,000 ล้านบาท ซึ่งมากกว่าจำนวน 76,000 ล้านบาท ซึ่งกำลังถูกอายัดอยู่ขณะนี้ประมาณ 2.67 เท่าตัว!

เรียกได้ว่ายึดเงิน 76,000 ล้านทั้งหมดก็ยังไม่พอความเสียหายที่ว่านี้เลย!

บทความโดย โดย ปานเทพ พัวพงษ์พันธ์ 2 กุมภาพันธ์ 2553 17:11 น. ผจก ออนไลน์

หวานกันมาได้ 1 ปีเต็มตอนนี้มีข่าวว่า “มาดอนน่า” และ “เฆซุส ลุซ” แฟนหนุ่มรุ่นน้องได้ยุติความสัมพันธ์กันลงแล้ว โดยมีข่าวตามมาว่านักร้องสาวใหญ่คนดังมีแฟนใหม่แล้วเป็นหนุ่มใหญ่วัยถึง 70 ปีเลยทีเดียว

ก่อนหน้านี้มีข่าวว่า มาดอนน่า และเฆซุส ลุซ แฟนหนุ่มนายแบบชาวบราซิล กำลังจะแต่งงาน มีการเดินทางไปพบพอแม่ของฝ่ายชาย และนักร้องชื่อดังวัย 51 ปียังเปรยถึงการมีลูกอีกครั้ง แต่ล่าสุดจากการรายงานของ ชิคาโก ซัน-ไทม์ส ทั้งสองได้ตัดสินใจจบความสัมพันธ์ครั้งนี้แล้ว ปัญหาก็คือความแตกต่างด้านอายุ และพื้นฐานต่างๆ ที่แตกต่างกันเกินไป

คนใกล้ชิดกับ มาดอนน่า เผยว่านักร้องวัย 51 ปี ได้เอ่ยปากถึงเรื่องนี้ว่า "เราไม่มีอะไรจะพูดกันแล้ว ฉันหมายความว่ามันกลายเป็นความกดดันสำหรับเราไปแล้ว ที่จะใช้ชีวิตอยู่ด้วยกันในตอนนี้"

"ปัญหาของเธอกับ เฆซุส เป็นสิ่งที่เห็นได้ง่ายๆ มันเป็นเรื่องของความแตกต่างกันของอายุ เขา 23 ปี ส่วนเธอ 51 " แหล่งข่าวที่ใกล้ชิดกับนักร้องสาวชื่อดังกล่าว "มันจะอยู่ได้นานซักแค่ไหนกันเชียว ผ่านมาได้แค่ 1 ปีก็ถือเป็นเรื่องมหัศจรรย์ในสายตาของหลายๆ คนแล้ว เขาเป็นคนหนุ่มที่สมบูรณ์แบบ สุภาพ และฉลาด แต่พวกเขาแตกต่างกันมากเกินไป"

ยังมีรายงานว่า มาดอนน่า เริ่มต้นสานสัมพันธ์กับหนุ่มคนใหม่แล้ว ซึ่งเธอเปลี่ยนตัวเลือกจากหนุ่มน้อยวัย 23 ปี เป็นหนุ่มใหญ่วัย 70 ที่เพื่อนคนหนึ่งของเธอบอกว่า มาดอนน่าเริ่มเบื่อหน่ายกับการคบหากับหนุ่มๆ ที่ขาดความคิดลึกซึ้งแบบนี้แล้ว

เอียน ฮัลเพอริน นักเขียนเรื่องดาราคนดัง เป็นอีกคนที่ยืนยันข่าวการเลิกราของคู่รักต่างวัย แต่เผยถึงความสัมพันธ์ครั้งใหม่ที่ตอนนี้มาดอนน่ากำลังกุ๊กกิ๊กอยู่กับหนุ่มใหญ่ อดีตผู้บริหารจากวอลล์สตรีต นอกจากนั้นเขายังเป็นสมาชิกของคับบาลาห์ ลัทธิความเชื่อที่นักร้องสาวใหญ่ให้ความศรัทธาอยู่ โดยมีข่าวลือกันว่ามีคนเห็นทั้งสองจูบกันดูดดื่มที่ศูนย์คับบาลาห์แห่งหนึ่ง ซึ่งหนุ่มใหญ่คนนี้เป็นสมาชิกมานานกว่า 20 ปี

มาดอนน่า และเฆซุส ลุซ เริ่มต้นคบหากันตั้งแต่มีโอกาสได้ร่วมงาน ในการถ่ายแบบให้กับนิตยสาร W ที่ริโอ เดอจาเนโร่ เมื่อเดือน ม.ค. ปี 2009 หลังจากศิลปินหญิงชื่อดังระดับโลกคนนี้ หย่าขาดกับ กาย ริชชี่ สามีผู้กำกับชาวอังกฤษไม่นาน

ที่มา ผจก ออนไลน์

Precious ได้เข้าชิง 6 รางวัลออสก้า*

The nominations for the 82nd Annual Academy Awards were announced today in Los Angeles and Precious: Based on the Novel "Push" by Sapphire received six nominations in major categories. Congratulations to the nominees director Lee Daniels, actresses Mo'Nique and Gabourey Sidibe and the entire cast including Mariah, Paula Patton, Lenny Kravitz and Sherri Shepherd. Precious was nominated in the following categories:

Best Picture - Lee Daniels, Sarah Siegel-Magness & Gary Magness, Producers
Directing - Lee Daniels
Actress in a Leading Role - Gabourey Sidibe
Actress in a Supporting Role - Mo'Nique
Film Editing - Joe Klotz
Writing (Adapted Screenplay) - Geoffrey Fletcher

The academy awards will air live from the Kodak Theatre in Hollywood, California on Sunday, March 7 at 8:00pm EST on ABC.


ว้า เบส ซับปอด รางวัลใหญ่เป็นของโมนิกหมดเรยอ๊า อีลิงไม่ได้ชิงกะเค้าโน๊ะ

thank's www.mcarchives.com